วันเก่าๆ ของไมโครซอฟท์จะกลับมาอีกครั้ง?

วิธีการที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือสร้างอนาคตขึ้นมาเอง – หนังสือ Hit Refresh

ปีที่แล้วผมอ่านหนังสือประเภท non-fiction ไป 8 เล่ม ซึ่งเล่มล่าสุดที่อ่านค้างไว้ของปีที่แล้ว และมาจบพอดีวันขึ้นปีใหม่นี้เป็นหนังสือที่เขียนโดย CEO คนที่ 3 ของไมโครซอฟท์ แล้วก็เป็น CEO คนปัจจุบันตอนที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาด้วย

หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Hit Refresh ซึ่งได้รับการแปลไทยโดยสำนักพิมพ์ วีเลิร์น สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในแวดวงไอที แล้วก็คุ้นเคยกับสินค้า และบริการของไมโครซอฟท์มานานอย่างผมก็เลยซื้อหนังสือมาเก็บไว้อ่าน ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะได้รู้อะไรที่เกี่ยวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในซิลิคอน วัลเลย์นี้บ้าง

สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในแวดวงไอที แล้วก็คุ้นเคยกับสินค้า และบริการของไมโครซอฟท์มานานอย่างผมก็เลยซื้อหนังสือมาเก็บไว้อ่าน ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะได้รู้อะไรที่เกี่ยวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในซิลิคอน วัลเลย์นี้บ้าง

แต่หลังจากอ่านไปได้ประมาณห้าถึงสิบนาทีก็พบว่าหนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย อย่างแรกคือไม่ได้กล่าวถึงเรื่องในอดีตของบริษัทหรือ CEO คนก่อนๆ อย่างบิล เกตส์ และ สตีฟ บัลเมอร์เสียเท่าไหร่ หลักๆ แล้วหนังสือจะเขียนถึงการบริหารธุรกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรมองค์กร ความคิด และมุมมองของ Satya Nadella ซึ่งเป็น CEO คนปัจจุบัน เขียน และแปลออกมาได้น่าอ่าน น่าติดตาม หนังสือเล่มนี้จึงติดมืออ่านเพลินสำหรับคนที่ชอบติดตามเทคโนโลยี และเรื่องของธุรกิจในเวลาเดียวกันอย่างผมมากๆ

Hit Refresh - Microsoft

สัตยา เขียนในหนังสืออย่างน่าสนใจว่า การขึ้นเป็น CEO ของไมโครซอฟท์ต่อจากบิล เกตส์ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเป็นทุกอย่างของไมโครซอฟท์ และ สตีฟ บัลเมอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเกตส์ และเป็นนักบริหารตัวยงนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย และต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในองค์กรไปพร้อมกัน โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวสินค้า หรือบริการ แต่เป็น วัฒนธรรมองค์กรที่ขาดหายไปของไมโครซอฟท์เอง

หลายบทเขียนเอาไว้ถึงเรื่องช่วงเวลาต่างๆ ที่สำคัญ พร้อมกับนำเสนอมุมมองของเทคโนโลยีเอาไว้ร่วมด้วย โดยเทคโนโลยีหลักๆ ที่ถูกเขียนถึงบ่อยในเล่มนี้ก็ได้แก่ Mixed-Reality, Artificial Intelligence และ Quantum Computer รวมไปถึงสินค้า และบริการที่เป็นที่รู้จักระดับสากลของไมโครซอฟท์อย่างเทคโนโลยีคลาวด์ Microsoft Azure และบริการค้นหาข้อมูลอย่าง Bing สำหรับใครที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องเทคโนโลยีก็อาจจะมีสับสนอยู่บ้าง แต่ตัวหนังสือเองก็ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดอะไรมากนัก แค่เล่าไปว่าแต่ละตัวนั้นเกิดจากอะไร มีจุดประสงค์อะไร แล้วแนวทางการบริหารเป็นไปอย่างไรบ้างที่ผ่านมา

อีกเรื่องหนึ่งในมุมบริหารการจัดการแล้ว สัตยายังเขียนถึงคู่แข่งที่มีสินค้า และบริการที่จำเป็นต้องแย่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดียวกันกับไมโครซอฟท์ด้วย แต่เป็นมุมที่ตรงไปตรงมา มองโลกในแง่ดี และอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่การแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท แต่เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม และลูกค้า ภายในบทหลังๆ จะมีเรื่องของการเมือง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการที่สังคมมีความวิตกกังวลว่าในอนาคตเทคโนโลยีจะมาแย่งงานอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ทำให้คนอ่านเข้าใจบริบทของไมโครซอฟท์มากขึ้นว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วมีเป้าหมายอย่างไรในอนาคต อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความพยายามในการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ไมโครซอฟท์เองทำมาตลอดช่วงครึ่งปี 2018 ไม่ว่าจะเป็นเปิดรับแพลตฟอร์มภายนอกมากยิ่งขึ้น มีการร่วมมือกับบริษัทที่เป็นคู่แข่งตลอดการอย่าง Google และ Apple ในการพัฒนาซอฟแวร์ให้เข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการต่างๆ ตลอดจนการสนับสนุนนักพัฒนาซอฟแวร์ ซอฟแวร์แบบโอเพ่นซอร์ส และงานออกแบบที่ออกข่าวไม่เว้นในแต่ละเดือน

ส่วนตัวคิดว่า หนังสือเล่มนี้ให้แง่มุมด้านธุรกิจ และการบริหารองค์กรมากกว่าหนังสือเทคโนโลยีด้วยซ้ำ เพราะมีการเขียนถึงบุคคลมากมายที่เกี่ยวข้องทั้งที่ไมโครซอฟท์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และนักธุรกิจมากมาย แล้วก็แทรกแนวทางความคิดต่างๆ ที่น่าชื่นชมจากตัวของสัตยาเอง และนักธุรกิจ เพื่อนร่วมงาน รวมถึงผู้บริหารที่ไมโครซอฟท์ไปซื้อกิจการเข้ามาด้วย

การที่จะเป็นผู้นำในบริษัทนี้ หน้าที่ของคุณคือต้องมองหาดอกกุหลาบในทุ่งที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล – Satya Nadella จากหนังสือ Hit Refresh

สรุปแล้ว หนังสือ Hit Refresh ที่เขียนโดย CEO คนปัจจุบันของไมโครซอฟท์นี้เป็นหนังสือที่ทำให้เราสามารถเข้าใจมุมมองใหม่ และพันธกิจที่ตั้งเอาไว้ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนการใช้ชีวิตของคนเราในอนาคต ในมุมการบริหารธุรกิจ คุณจะพบว่าความเป็นผู้นำที่สัตยามี และพลังอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรเพื่อนำไมโครซอฟท์กลับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งอีกครั้งนั้นมีมากมายเหลือเกิน และพบได้ในทุกบทของหนังสือ

photo by Majid Rangraz via Unsplash
photo by Majid Rangraz via Unsplash

อีกมุมหนึ่งหากคุณเป็นคนที่สนใจในมุมเทคโนโลยี คุณก็จะได้รู้ประวัติความเป็นมา หรือที่มาที่ไปของบริการบางตัวของไมโครซอฟท์อย่างที่เราไม่เคยรู้จากที่ไหนก็ได้ ซึ่งเทคโนโลยีที่สัตยาเขียนถึงนั้นก็เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตแทบจะทั้งสิ้น ไล่ไปตั้งแต่ Cloud, Mixed-Reality, Artificial Intelligence ไปจนถึง Quantum Computer

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านเพลิน ได้ข้อคิดมากมายทั้งเรื่องธุรกิจ และเทคโนโลยี พร้อมกับมุมมองจากภายใน จนอดคิดไม่ได้เลยว่า หากบริษัทคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Apple ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในองค์กรอย่างที่เป็นอยู่ ไม่นานนี้ อาจจะเห็นไมโครซอฟท์กลับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแทนก็เป็นได้

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ