หลับตาลืม ปล่อยใจปลง
ผมเคยได้ยินชื่อ วัดบางจาก มาสักพักนึงแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นคุณแม่ของผมที่พูดขึ้นมามั้งว่าวัดนี้อยู่ใกล้บ้าน หรือมีลอดโบสถ์อะไรทำนองนี้ แต่ก็จำอะไรไม่ได้มากแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจในตอนนั้น ถ้าได้อ่านเรื่องราวในหมวด life ของผมมาบ้างก็จะเห็นว่าผมเองชอบไปเดินเล่น นั่งพักดูโน่นดูนี่ที่เกาะเกร็ดอยู่บ่อยๆ ซึ่งถ้าหากมองจากฝั่งร้านอาหารของเกาะเกร็ด(แถวร้านข้าวแช่ริมน้ำ) ก็จะเห็นวัดตั้งตระหง่านอยู่อีกฟากฝั่ง ทีแรกผมรู้จักแค่ วัดเตย ที่เขียนชื่อตัวใหญ่โตบนโบสถ์ และเห็นได้ชัด
อีกวัดนึงมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ในตอนนั้นหรอกครับว่าเป็นวัดอะไร
ก่อนวันลอยกระทงอาทิตย์นึง ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากทานข้าวแถวเส้นชัยพฤกษ์ ก็อยากจะหาท่าน้ำตามวัด หรือร้านอาหารที่สามารถมองออกไปอีกฝั่ง ยืนรับลมช่วงเย็นๆ และให้อาหารปลาได้ แต่คิดว่าวันเสาร์ตอนเย็นๆ จะขับรถเดินทางไป วัดเฉลิมฯ ก็ไกลอยู่พอสมควร เลยได้ทีเข้าไปวัดบางจากเสียหน่อย เพราะอยู่ใกล้ตรงนั้นมากกว่า
วัดบางจากอยู่ในซอยเดียวกับร้านอาหาร ธาราเริงรมย์, Riverwine แค่ขับรถเลยเข้าไปอีก 500 เมตร ก็จะเจอเขตของตัววัดบางจาก และชุมชนที่อยู่ติดกับตัววัดด้วยเช่นเดียวกัน วัดนี้เป็นวัดค่อนข้างใหญ่มีพื้นที่ให้เดินเข้าไปไหว้พระหลายจุด อีกทั้งมีให้อาหารวัวควายที่วัดไปไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์, มีไหว้พระราหู, ลอดโบสถ์, ไหว้ศาลพระพิฆเนศ และสวนหย่อมให้เดินดูรูปปั้นของเหล่านิทานสวรรค์สมัยก่อนด้วย
แต่ point ที่สำคัญคือท่าน้ำที่ให้บรรยากาศเหมาะกับการมานั่งรับลม มองดูวิถีชีวิตผู้คน พาสมองออกไปพักผ่อน
ท่าน้ำที่นี่แตกต่างจากวัดอื่นๆ นิดหน่อยตรงที่ว่าไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน อาจจะเป็นเพราะไม่ได้มีให้อาหารปลา หรือปล่อยปลาเยอะแยะอย่างที่อื่นๆ คนที่ผ่านไปมาก็มาจากคนในชุมชนที่ต้องสัญจรด้วยเรือข้ามฝากจากเกาะเกร็ดมาที่ท่าของวัด อาจจะมีคนนอกบ้างที่มานั่งดูบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็น เนื่องจากวัดกับชุมชนอยู่เหมือนกับกลืนเป็นที่เดียวกัน เราเลยได้เห็นการเป็นอยู่ของคนที่ใช้ชีวิตติดแม่น้ำ ดูความเรียบง่าย หรือใครที่ตั้งใจจะมาสักการะพระองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำก็ชื่นใจไม่แพ้กัน
คนเราพอมีปัญหาก็มักจะหันหน้าเข้าวัด พอปัญหาหายก็ละเลยไม่เคยได้ใส่ใจ
การพาตัวเองออกไปอยู่ที่เงียบๆ ได้ใช้เวลากับตัวเองให้ซึม และได้ไตร่ตรองปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้น พาสมองออกไปพัก หลับตาลืม ปล่อยใจปลง เข้าใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แล้วค่อยๆ หาวิธีแก้ไข ผมว่าบางทีมันก็อาจจะสบายใจกว่าการได้พูดระบายออกไปให้ใครสักคนได้ฟังอีกนะในบางครั้ง.