พยายามบอกตัวเองในวันที่อายุมากขึ้นๆ ให้ระวังการตกอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง หรือสถานะใดสถานะหนึ่งนานเกินไป เพราะมันอาจเป็นบ่อเกิดของความคิดที่ว่าก็ที่มีมันก็ดีอยู่แล้ว ที่เป็นอยู่มันสบายแล้ว และมันอาจทำให้เราไม่เปิดโอกาสรับอะไรใหม่ๆ ไม่กล้าเสี่ยง และไม่สบายใจกับการเปลี่ยนแปลง
แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่รู้สึกว่ายังกล้าๆกลัวๆ คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมไม่เหมาะสม ต่างกับเรื่องบางเรื่องที่จะเป็นยังไงก็มาเลย คิดว่ารับได้ทุกอย่าง
ช่วงวัย 30 ต้นๆ นี่ให้ความรู้สักเหมือนกับช่วงใกล้ 20 อย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนมีเสียงที่เราพูดกับตัวเองในบางครั้งว่า เรามีอะไรบ้าง ทำอะไรแล้วบ้าง เตรียมอะไรไว้บ้าง เมื่อเทียบกับช่วงอายุที่กำลังจะกลายเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบตามวัยอย่างเต็มตัว มันเหมือนกับความกดดันที่หายไปนานสมัยเด็กๆ ที่ว่าเราจะเลือกเรียนที่ไหนดี โตขึ้นจะทำอะไรต่อไปดี เอาเข้าจริงมันก็เหมือนหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องมานั่งรีวิวตัวเองอย่างจริงจังถึงช่วงเวลาที่ผ่านไปราวครึ่งนึงของชีวิต และกำลังเริ่มวางแผนอีกครึ่งนึงที่เหลือ
ก็รู้ทั้งรู้ว่ากดดันตัวเองไปก็คงไม่ได้อะไรมาก พอถึงเวลาเข้าจริงก็คงเรียนรู้ว่าอะไรจะเกิดก็คงปล่อยให้มันเกิด มีปัญหาก็แค่แก้ไข เหมือนช่วงเวลาที่ผ่านๆมา แต่ก็แค่อดคิดนึกถึงมัน หรือลดละความพยายามที่จะหาแผนการให้มันไม่ได้ จนเริ่มสงสัยตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนเปิดรับอะไรที่เข้ามาได้ดีพอหรือยัง หรือเปิดใจกับสิ่งที่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของชีวิตได้มากขึ้นหรือยัง
แต่ก็อย่างว่า บางเรื่องคงอยู่กับมันมานานมากแล้ว
มันคงเป็นความเคยชินที่ไม่รู้ว่า วิธีที่จะต้องเริ่มต้นใหม่นั้นเป็นยังไง