The Unfair Advantage – จริงๆแล้วเราเก่งอะไร?

หนังสือ The unfair advantage เป็นหนังสือที่ดีและตรงไปตรงมาสำหรับการเริ่มทำธุรกิจ เป็นหนังสือที่อยากจะแนะนำให้ผู้ประกอบการหามาอ่านเพราะในหนังสือจะเขียนถึงเรื่อง “ข้อได้เปรียบที่ไม่แฟร์” ซึ่งส่วนใหญ่ในหนังสือจะเล่าว่าทำไมถึงต้องมีปัจจัยนี้ และปัจจัยนี้จะเป็น key to success สำหรับการประกอบธุรกิจยังไงบ้าง

พื้นหลังของผู้เขียนหนังสือทั้งสองคนเริ่มจากแทบไม่มีอะไรเลย จนมาสำเร็จด้านการทำธุรกิจและสุดท้ายก็กลายเป็นนักลงทุน ได้รวมเอาประสบการณ์ต่างๆมารวมเขียนเป็นหนังสือประมาณ 200 กว่าหน้า เล่าไม่ยืดเยื้อ มีตัวอย่างประกอบเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพชื่อดังหลายแห่ง และดูเป็นไปได้จริงจังไม่อวยแบบจับต้องไม่ได้

“Success in startup world is not simply awarded to the harded workers. It is awarded to those who develop and use their Unfair Advantages.”

ถ้าบ้านรวย มีคอนเนคชัน พ่อแม่รู้จักคนเยอะ

ก็ถือเป็น Unfair advantage อย่างนึง และการมีข้อได้เปรียบนี้ก็ถือเป็นจุดนึงที่จะช่วยให้เรามีแต้มต่อมากกว่าคนอื่น เพราะอย่าลืมว่าถ้าเรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น เช่นถือสัมปทาน ตระกูลที่บ้านเป็นคนเก่าคนแก่ในฝั่งรัฐบาล เรียนจบมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ฯลฯ พวกนี้ย่อมดึงดูดนักลงทุนได้มากกว่าคนที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย เพราะนักลงทุนก็อยากได้ผลตอบแทน และการลงทุนในคนที่มีโอกาสมากกว่าย่อมเสี่ยงน้อยกว่า

โชคก็ถือเป็นข้อได้เปรียบรูปแบบหนึ่ง

ความสำเร็จนั้นมาจากการทำงานหนักและมีโชคที่ดี ก็เหมือนกับถ้าคุณเป็นนักโต้คลื่นและคลื่นเปรียบได้กับโอกาส ถ้าวันที่มีคลื่นลูกใหญ่มาแต่คุณไม่พร้อม ไม่เคยพยายามทำงานหนักเพื่อฝึกฝนการโต้คลื่นมาก่อน คุณก็จะล้มไม่เป็นท่าก็จะทำให้เสียโอกาสนั้นไป เช่นเดียวกันกับถ้าคุณซ้อมฝึกฝนหนักมาก แต่ทะเลไม่เคยมีคลื่นหรืออยู่ในอ่าวปิด โอกาสที่คุณจะได้เฉิดฉายก็แทบจะไม่มีเหมือนกัน

และการทำงานหนัก ไม่ได้จะแปลว่าจะสำเร็จเสมอไป เหมือนที่ครั้งนึง Evan Spiegel ผู้ก่อตั้ง Snapchat เคยกล่าวเอาไว้ว่า การทำงานหนักที่ปราศจากการทำงานที่ฉลาดนั้นไร้ค่า (Working hard without working smart is useless)

งั้น unfair advantage คืออะไรกันแน่?

ผู้เขียนหนังสือกล่าวเอาไว้ประโยคนึงสั้นๆแต่ชัดเจนคือ เป็นข้อได้เปรียบหรือสิ่งที่เราเก่งโดยคนอื่นไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย หรือหาซื้อเพื่อให้เหมือนเราได้ยาก ข้อได้เปรียบนั้นจะมีเอกลักษณ์ที่เป็นแบบของเราเอง โดยในหนังสือยังให้ framework เอาไว้ด้วยเผื่อใครที่ยังไม่เห็นภาพว่าจริงๆแล้ว unfair advantage หรือข้อได้เปรียบที่ว่าพวกนั้นอาจจะมาจากอะไรได้บ้าง

MILES framework

เป็น framework ที่ผมอ่านแล้วรู้สึกเห็นภาพเลยทันที MILES เป็นตัวอักษรย่อของคำว่า

  • Money หรือเงินทุน
  • Intelligence and Insights หรือความฉลาดทางอารมณ์และข้อมูลเชิงลึก
  • Location and Luck หรือการเป็นที่รู้จักหรือโชค
  • Education and Expertise หรือการศึกษาและทักษะ
  • Status หรือสถานะทางสังคม

โดยในหนังสือจะเจาะลงลึกแต่ละส่วนและมีการยกตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจขึ้นมาด้วย นอกจากนั้นยังอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของการหาหุ้นส่วน การเข้าสังคม และข้อผิดพลาดที่บริษัทตั้งใหม่ทั่วไปทำกันและสิ่งที่อยากให้พยายามหลึกเลี่ยง เช่นอย่าพยายามทำ product ที่เป็นตัวแก้ไขปัญหา โดยที่ปัญหานั้นยังไม่มีจริง หรือไม่เคยเกิด เพราะสุดท้ายเราจะพยายามหาปัญหาซึ่งอาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ ซึ่งจะเป็นเราเองที่ทำ product มาแล้วไม่มีคนใช้ เพราะมันไม่ได้แก้ไขปัญหาให้กับใคร

สิ่งที่สำคัญของการทำ product คือมันแก้ไขปัญหาหรือเปล่า อย่าเพิ่งไปสนใจพวกที่เป็น cosmetic layer ที่ทำให้มันดูดี อย่าเพิ่งไปกังวลว่ามันเกิดปัญหาเยอะแยะในการพัฒนาหรือการใช้งาน เอาแค่ตอบคำถามให้ได้ว่ามันแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่นได้จริงใช่ไหม ถ้ามันแก้ไขได้จริงก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว เรื่องอื่นๆก็ค่อยปรับปรุงแก้ไขกันไป

และที่สำคัญที่สุดที่หนังสือเล่มนี้พยายามบอกคือ เราที่เป็นผู้ประกอบการต้องมี growth mindset ต้องมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด อะไรที่เราทำไม่ได้ ก็ให้คิดว่านั่นเป็นแค่สิ่งที่เรายังทำไม่ได้ในตอนนี้ และเราจะพยายามทำมันให้ได้วันใดวันนึงข้างหน้า ไม่ใช่แบบ fixed mindset ที่คิดไปแล้วว่าตัวเองทำไม่ได้ และเพราะคิดว่าคงทำไม่ได้นี่เองก็เลยไม่ลงมือทำ

The Unfair Advantage จึงเป็นหนังสือดีอีกเล่มที่ผมอยากจะแนะนำให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ลองหามาอ่านกัน มีหลายอย่างที่เราอาจจะคิดว่ามันอยู่ไกลตัวและหายากหรือว่าไม่มี แต่จริงๆแล้วมันอาจมีอยู่ในตัวของเรา แต่เรายังไม่รู้ว่าจะนำมันออกมาใช้ยังไง เราจะจัดการอะไรต่างๆในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่อย่างมีโอกาสมากกว่าคนอื่นได้แค่ไหน

หนังสือเล่มนี้ทำให้มาย้อนคิดอีกครั้งว่า growth mindset นี่สำคัญจริงๆ

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ