สมมติว่าการที่เราแสดงออกอยู่ทุกวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้อะไรสักอย่างสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ เราจะทำมันไหมครับ? บางครั้งเราแสดงออกไปเพราะอยากทำ และมีหลายครั้งที่ทำไปเพราะไม่อยากทำ แต่ทุกการแสดงออกล้วนถือเป็นหน้าที่การงานและความรับผิดชอบ ไม่ใช่ทำไปเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเลย
สมัยเด็กๆ เราเองก็มีหลายครั้งที่เห็นใครต่อใครทำอะไรในที่สาธารณะ บ้างเข้าใจ บ้างไม่เข้าใจ หลายครั้งที่เห็นด้วย และมีอีกหลายๆครั้งที่ไม่เห็นด้วย เราต่อต้านการแสดงออกของคนอื่นทั้งๆที่เราไม่รู้เลยว่าเราเข้าใจเรื่องนั้นหรือเข้าถึงบริบทของผู้แสดงบทบาทได้ดีพอหรือยัง
สำหรับผม ผมคิดว่า “emphaty gap” นี่ถือเป็นหัวใจหลักของการอยู่ร่วมกันทางสังคมของมนุษย์เลยก็ว่าได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนจะตัดสินใครจากสิ่งที่ตัวเองเห็น แต่จะมีสักกี่คนที่พยายามทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการแสดงออกของคนอื่นนั้นทำไปเพื่ออะไร มีจุดมุ่งหมายและความคาดหวังยังไง เราไม่เคยคิดเลยว่า การแสดงออกนั้นถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำจนต้องมาเจอกับตัวเอง
สมมติว่าเราเห็นป้ายโฆษณานึง เจ้าของบริษัทออกมาขายบริษัทตัวเอง พูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสามารถเปลี่ยนแปลงวงการใดวงการหนึ่งให้ดีขึ้นได้ แน่นอนว่าการออกมากล่าวอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะย่อมมีทั้งคนชอบและคนเกลียด มันเป็นไปได้ไหมว่าเจ้าของบริษัทคนดังกล่าวไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้นจริงๆ แต่ทำไปเพื่อมันเป็นหน้าที่ เป็นไปได้ไหมเพราะเขาทำไปเพราะนักลงทุนคนอื่นคาดหวังให้เขาทำแบบนั้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินของบริษัท
หรือเป็นไปได้ไหมที่ต้องแสดงความเชื่อมั่นให้คนอื่นเห็น ทั้งๆที่ตัวเองก็วิตกกังวลไม่แพ้คนอื่น
ความรู้สึกรักชอบโกรธเกลียดเรามักมาก่อนการใช้เหตุผลวิเคราะห์ เราอาจจะไม่ทันคิดอย่างจริงจังเพราะอะไรเขาถึงทำแบบนั้น หรือเราอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องของเขาเลยก็ได้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เราก็เลยปล่อยความรู้สึกให้ตัดสินไปโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรต่อจากที่ตัวเองแรกเห็น
เราเห็นเด็กบางคนออกจากการเรียน บางครั้งตีตราว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ใฝ่เรียนรู้ แต่เราเองก็ไม่รู้เลยว่าเด็กมันอาจจะลำบากขัดสนหรือมีภาระความรับผิดชอบอื่นที่สำคัญกว่าอย่างความอยู่รอด เราอาจจะไม่เคยรู้เลยว่าคนทำธุรกิจต้องเจออะไรบ้างในสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ แต่กลับตั้งคำถามว่าทำไมถึงเลิกจ้างลอยแพพนักงาน ถ้าทุกคนมีเหตุผลที่ดีของตัวเองทั้งนั้นแล้วมุมมองของใครถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องกันแน่
หรือทุกคนต่างก็ทำสิ่งที่ต้องทำ เหมือนต้องแสดงออกให้เป็นหน้าที่เพื่อให้คนอื่นรู้สึกว่าสิ่งที่พบเจออยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร หรือเหมือนต้องแสดงออกว่าทุกอย่างโอเคสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้อย่างมีเกียรติ แบบนั้นหรือเปล่าที่ทำตามหน้าที่
ไม่หรอก เราอาจจะแสดงออกเรื่องหลายเรื่องเพียงเพราะมันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำต้องรับผิดชอบ แต่มันอาจจะมีแค่บางเรื่องที่สำคัญ ที่เราเลือกเก็บมาแสดงออกเฉพาะบางคนที่เราใส่ใจมากก็แค่เท่านั้น ถ้าการแสดงออกเป็นหน้าที่ แล้วเราต้องนึกถึงความรู้สึกที่เราต้องแสดงออกจริงๆด้วยหรือเปล่า หรือมันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญไปกว่าหน้าที่ที่เรามี?