ปีที่แล้วเขียนถึงสถิติการใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้งานภายในประเทศไทยลงในบทความ “เมื่อคนไทย “ติดมือถือ” มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก” ซึ่งก็เอาสถิติของ We are social มาย่อยต่อให้อ่านกันได้ง่ายๆ ซึ่งก็ทำให้เห็นภาพคร่าวๆกันว่าปีที่แล้วของคนไทยเราเนี่ย มีการใช้อินเตอร์เน็ตนานติดอันดับต้นๆ และยังมีการใช้ mobile banking เพิ่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วยในคราวเดียวกัน
แต่ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะในปีที่แล้ว ทั้งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาตรการฟรีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ เลยเปลี่ยนพฤติกรรมของคนอย่างจะทำอะไรก็ไปที่ตู้ หรือที่สาขา มาใช้แอปได้อย่างสะดวกรวดเร็วไม่ต้องเดินทาง
ในปีนี้เอง ผมก็เลยหยิบสถิติของ We are social กลับมาเขียนถึงเหมือนกันกับปีก่อน แต่จะเลือกมาเฉพาะอันที่น่าสนใจ แล้วก็อยากจะชวนคุยตั้งข้อสังเกตุการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคบางอย่าง สำหรับใครที่ต้องการดูข้อมูลสถิติแบบเต็มๆ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Slideshare ครับ
สถิติประชากรภายในประเทศปี 2020
ก่อนอื่นผมอยากจะเริ่มด้วยสถิติพื้นฐานที่อัพเดทมาจนถึงเดือนมกราคมปี 2020 ก่อนจะไปที่สถิติอื่นอีก 12 หน้าที่กำลังจะพูดถึง ตอนนี้ประชากรในประเทศมีประมาณ 69 ล้านคน วัยที่สามารถทำงานได้คิดเป็น 69% หรือประมาณ 48 ล้านคนเศษ และในอนาคตตัวเลขนี้อาจจะลดลงเพราะเริ่มเข้าสู่สังคมสูงอายุแล้ว
ที่น่าสนใจต่อไปคือสถิติการใช้สมาร์ทโฟนภายในประเทศ ปีนี้เรามีคนที่สามารถใช้มือถือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 97% เรียกได้ว่าเกือบทุกคนในประเทศสามารถออนไลน์ได้แล้ว และเวลาส่วนใหญ่ที่อยู่กับหน้าจอก็ประมาณ 5 ชั่วโมง สมมติถ้านอนวันละ 8 ชั่วโมง ทำงานอีก 8 ชั่วโมง การออนไลน์อยู่ 5 ชั่วโมงก็คือว่าเลยครึ่งค่อนช่วงที่เราตื่นอยู่เลยทีเดียว
และเทคโนโลยีต่างๆ ก็ดีขึ้น ค่ายมือถือแต่ละค่ายก็แข่งกันออกโปรใหม่ๆ เพื่อแย่งลูกค้า ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเน็ตบ้านที่เร็วขึ้นกว่าปีที่แล้วเท่าตัว คิดว่าในปี 2020 นี้ความเร็วในการเชื่อมต่อก็จะยิ่งสูงขึ้นด้วย เพราะจะเริ่มประกาศใช้เทคโนโลยี 5G ในบางพื้นที่ เริ่มช่วงกลางปีเป็นต้นไป
คนกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ในการเข้าเว็บไซต์
ต่อมาเราจะดูสัดส่วนการใช้อุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกันบ้าง ที่ผมสนใจและตั้งข้อสังเกตุเลยคือ คนไทยกลับใช้คอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุคในการเปิดหน้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีก่อน ตัวเลขชี้ว่าคนกลับมาใช้เยอะขึ้นกว่า 50% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าดึงสัดส่วนกลับมาเป็นอันดับหนึ่งในการใช้เปิดเว็บไซต์แล้ว
ส่วนตัวนั้นคิดว่าเรามาถึงจุดที่เปิดเว็บไซต์บนมือถือเริ่มอิ่มตัว และอาจจะทำอะไรได้ไม่ค่อยถนัด หรือลำบากในการดูข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเยอะขึ้นในจอเล็กๆ คงดีกว่าถ้าจะเก็บไว้ดูที่จอใหญ่ มีเมาส์ไว้คลิกอย่างสะดวก หรือหาข้อมูลอะไรก็เร็วกว่า ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเฉพาะเจาะจงอยากดูเดี๋ยวนั้นเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว
และอีกหนึ่งสมมติฐานคือคนใช้คอมในการเข้าเว็บไซต์ก็เป็นเพราะความนิยมในหมู่ streaming service อย่าง Netflix, Disney+ และ Amazon Prime ก็เริ่มเข้ามาตีตลาดมากขึ้น แน่นอนว่ามือถืออาจจะใช้ดูซีรี่ย์หรือหนังเรื่องโปรดได้ แต่บางคนเพ่งจ้องไปนานๆแล้วอาจจะปวดตา หรือไม่สะใจได้อรรถรสเหมือนกับการเปิดดูจอใหญ่ และดูหลายคนได้สะดวก
สไลด์ที่หยิบมาให้ดูต่อไปก็น่าจะเข้าเกณฑ์กับสมมติฐานข้างต้นได้ดีพอสมควร เราจะเห็นว่าคนระหว่างอายุ 16-64 (วัยทำงาน) นั้นใช้อินเตอร์เน็ตในการรับชมวิดีโอออนไลน์สูงถึง 99% เรียกได่ว่าแทบทุกคนต่างใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรูปภาพภาพเคลื่อนไหวกันทั้งนั้น (แล้วจะมีกี่คนที่ยังอ่านบทความอยู่ล่ะเนี่ย)
ที่น่าสนใจก็คือ Vlogs ได้รับความนิยมสูงมาก สูงกว่าการฟังวิทยุออนไลน์ หรือฟังพอดแคสต์ด้วยซ้ำ และคิดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคแบบอ่านอย่างเดียวอย่างอ่านบทความ หรือบล็อกน่าจะเปลี่ยนไปเป็นติดตามผ่านการดูวิดีโอแทนในอนาคต
โซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในไทย
ก็คงยังเป็น Facebook และ Youtube อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าแทบทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟนน่าจะมีทั้งสองแอพนี้ติดไว้ในเครื่อง ช่วงวัยทำงานนี้อาจจะอยากหาอะไรเพื่อความบันเทิงคั่นกลางระหว่างความเหน็ดเหนื่อยระหว่างวัน ซึ่ง Facebook ก็จะช่วยให้เราติดตามข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนและคนรู้จัก และ Youtube เองก็ช่วยบันเทิงใจทั้งฟังเพลง ดูคลิป และหาความรู้เสริม
และไลน์เองก็ยังเป็นแอพหลักที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านการพิมพ์ข้อความส่งไปมาหากัน ที่น่าจับตามองอีกตัวนึงคือ Instagram ที่มียอดความนิยมสูงเป็นอันดับ 5 และแอพ Tiktok ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาในชาร์ต คิดว่าในปี 2020 น่าจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่วัยรุ่น ในปีถัดไปน่าจะไต่อันดับขึ้นมาได้ไม่ยาก
เดี๋ยวบทความหน้า ผมจะเขียนเรื่องสถิติการใช้มือถือในการสั่งซื้อของออนไลน์ และการชำระเงินครับ ซึ่งเป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับคนที่ทำงานในแวดวงธุรกิจออนไลน์อย่างร้านค้าออนไลน์ ธุรกรรมออนไลน์ ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเราจะได้เตรียมตัวเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจและวิธีเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น ติดตามกันเร็วๆนี้ครับ