วิธีลบไฟล์ขยะใน WordPress พร้อมวิธีทำความสะอาด

จะเขียนว่าล้างฐานข้อมูลก็ดูเป็นคำที่น่ากลัวเกินไปหน่อย ใช้คำว่า ลบไฟล์ขยะ WordPress หรือทำความสะอาดฐานข้อมูลของเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress น่าจะดีกว่า บ่อยครั้งที่เราใช้งาน WordPress ไปได้สักพัก มันก็จะเริ่มช้าลง และกินพื้นที่ของ hosting มากขึ้นใช่ไหมครับ ในบทความนี้จะเสนอการล้างไฟล์ขยะง่ายๆ ที่คุณก็ทำเองได้ หลังจากที่ลบไฟล์ขยะออกไปแล้ว ไม่แน่เว็บไซต์ของคุณอาจจะเร็วขึ้นมานิดนึง หรือจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้นด้วยก็เป็นไปได้

1. ลบสิ่งที่อยู่ในถังขยะ

วิธีแรกสุดคือการลบไฟล์ขยะที่อยู่ในถังขยะ ซึ่งมันก็มีวิธีเหมือนกับการลบขยะในถัง recycle bin บนเครื่องคอมพ์ของคุณนั่นแหละ หลายครั้งที่เรามักจะเขียนบทความไว้ แล้วก็ลบ หรือบางทีลบไฟล์รูป ลบหน้าเพจบางอันที่ไม่ได้ใช้ หรือลบ comment ออกไป มันก็จะไปค้างอยู่ที่ recycle bin หรือที่เมนู Trash ในเว็บไซต์ของ ให้ลองเข้าไปที่ All Posts แล้วคลิกไปที่เมนู Trash ดังภาพด้านล่างดูครับ ใครที่ไม่ได้ลบมันตั้งแต่แรกก็อาจจะมีเยอะหน่อยไม่ต้องตกใจ

ถ้ามันมีเยอะมาก ก็ติ๊กเลือกทั้งหมดที่คิดว่าไม่ได้ใช้แล้ว จากนั้นก็เลือกเมนู Delete Permanently ได้เลย อย่าลืมทำซ้ำกับ Pages, Comments และสำหรับใครที่มีเมนู Categories หรือ Tags เยอะๆ แล้วมีบางอันที่ไม่ได้ใช้ ก็ลบออกไปด้วยก็ดีครับ เพราะพวก meta เหล่านี้จะสร้างความสัมพันธ์(model relational) ที่ไม่จำเป็นในฐานข้อมูลไว้ด้วย

2. เปิดใช้งานการปรับปรุงฐานข้อมูลใน wp-config.php

ฟังก์ชั่นนี้เป็นฟังก์ชั่นที่มีติดมาให้กับ WordPress เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เปิดใช้มาตั้งแต่แรกครับ สิ่งที่เราต้องทำคือการประกาศค่าในไฟล์ wp-config.php ค่านึงว่า “เออ ต้องการเปิดใช้แล้วนะ” โดยวิธีนั้นก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่คุณผู้อ่านต้องเปิดไฟล์ wp-config.php ขึ้นมาแก้ไข โดยการเพิ่มบรรทัดด้านล่างนี้

define( 'WP_ALLOW_REPAIR', true );

เข้าไปบรรทัดล่างสุดเลยก็ได้ ซึ่งเมื่อใส่ค่านี้ลงไปแล้ว เราจะสามารถเรียกใช้งานหน้าพิเศษของ WordPress หน้านึงได้ โดยให้เข้าเติมคำว่า /wp-admin/maint/repair.php ลงไปต่อท้ายชื่อเว็บไซต์ของเรา ตัวอย่างถ้าชื่อเว็บไซต์ของคุณชื่อว่า http://www.example.com ก็ให้เรียกหน้าเว็บไซต์นี้ขึ้นมาได้เลย

จะพบกับเครื่องมือในการบำรุงรักษาฐานข้อมูลของ WordPress ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบตารางข้อมูล เช็คข้อผิดพลาด และปรับปรุงให้กลับมาทำงานได้มีประสิทธิภาพเหมือนช่วงแรกๆ อย่างที่มันควรจะเป็น อ้อ! แล้วอย่าลืมลบบรรทัดที่เพิ่มเข้าไปในไฟล์ wp-config.php ออกด้วยนะครับเมื่อเราทำการปรับปรุง หรือใช้งานเรียบร้อยแล้ว

3. เข้า phpmyadmin แล้ว optimize มันอีกสักที

วิธีนี้อาจจะดูยุ่งยากกว่าขั้นตอนอื่นๆ สำหรับมือใหม่นิดนึงครับ ใครที่เช่าซื้อ hosting ก็อาจจะต้องเข้าไปยัง hosting admin panel อย่าง Direct Admin, pleask หรือ cPanel แล้วแต่ผู้ให้บริการเจ้านั้นเลือกใช้ รหัสผ่านในการเข้าถึงพวกนี้จะได้มาตอนที่เราทำการซื้อแพคเกจ hosting ครั้งแรก ยังไงก็ลองค้นดูหน่อยแล้วกัน ซึ่งพอเข้ามาที่หน้า phpmyadmin ได้แล้วก็ให้เลือกฐานข้อมูลลูกที่เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ WordPress เราก่อนครับ(จากเมนูด้านซ้าย)

จากนั้นเลื่อนลงมาที่เมนู check all ด้านล่าง กดติ๊กเพื่อเลือกทุก field ที่อยู่ในฐานข้อมูลลูกนั้น แล้วเลือก dropdown ที่ด้านข้างเป็น Repair table และ Optimize table ตามลำดับ

4. ใช้ plugin ช่วยลบข้อมูลขยะปิดท้าย

Plugin ที่ว่านี้คือ WP-Optimize ครับ เป็นส่วนเสริมที่ผมชอบ และใช้ค่อนข้างบ่อยเมื่อใช้เว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ไปได้สักพัก ตัวนี้จะคอยช่วยสแกนไฟล์ที่เกาะอยู่ตามซอก หรือต้องใช้เทคนิคมากหน่อยหากต้องการจะลบไฟล์พวกนั้นเอง แล้วทำไมเราจะต้องไปเสียเวลา ในเมื่อมีคนทำตัวช่วยมาให้แล้ว พอโหลดมาติดตั้งแล้วก็จะเห็นหน้าตาดังนี้

ซึ่งเราก็มีหน้าที่อย่างเดียวคือกดปุ่ม Run all selected optimizations หรือจะเลือกกด Run optimization ที่ด้านขวาทีละอันก็ได้ครับ หากเราต้องการจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ เมื่อตัว plugin ทำงานเรียบร้อยแล้วก็จะแจ้งให้เราทราบว่าทำการลบอะไรไปบ้าง เป็นจำนวนเท่าไหร่ ข้อดีของ plugin ตัวนี้คือเราสามารถตั้งเวลาในการปรับปรุงฐานข้อมูลได้ โดยเข้าไปที่แท็บ Settings และสังเกตที่หมวด Auto clean-up settings

สำหรับ 4 วิธีในการ ลบไฟล์ขยะ WordPress ที่ได้เขียนไปนั้นก็เป็นวิธีที่ง่าย แล้วก็สามารถทำตามเองได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ทางด้านเทคนิคมากนัก ยังไงสำหรับคนที่คิดว่าเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ที่ใช้งานอยู่นั้นค่อนข้างช้า ก็ลองทำความสะอาดมันบ้างก็ได้ครับ ถ้ามันไม่หาย ก็ลองลง plugin เสริมจำพวก cache ซึ่งผู้เขียนเองก็ว่าจะหาโอกาสเขียนในเร็วๆ นี้อยู่เหมือนกัน

ใครที่สนใจทำเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ผมขอแนะนำหนังสือ สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ภายใน 1 วัน ที่ผมเองเป็นคนเขียน โดยจะสอนทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ตั้งแต่ต้นจนถึงได้เว็บไซต์พร้อมใช้งานจริง รายละเอียด และวิธีการสั่งซื้อสามารถเข้าไปอ่านได้ในลิงค์ของหนังสือเลยครับ