เมื่อคำว่าโต๊ะทำงานมีความหมายกับผมมาก
ช่วงเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมานี้ ผมใช้เวลาทำงานอยู่ที่บ้านเป็นหลัก โดยก็เริ่มสร้างนั่นสร้างนี่ ซื้อนั่นซื้อนี่มาทำให้ตัวเองสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เพื่อที่จะได้งานที่เสร็จตามกำหนดเวลา ปรกติแล้วโต๊ะทำงานของผมจะอยู่ในห้องนอนเลย ซึ่งนั่นหมายความว่าสิ่งสุดท้ายที่ผมทำก่อนนอน แล้วก็สิ่งแรกทุกเช้าที่ตื่นมาต้องมานั่งโฟกัสเริ่มทุกสิ่งอย่าง ก็ที่โต๊ะทำงานตัวนี้
การทำงานที่บ้านนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ และคิดว่าคนทำงานแทบทุกคนอยากจะทำงานที่บ้าน หนีปัญหาเรื่องรถติด การเดินทาง สภาพอากาศ แล้วก็ปัญหาจิปาถะอื่นๆ อีกมากมาย แต่ก็ต้องแลกมากับระเบียบวินัยที่จะต้องควบคุมตัวเองให้โฟกัสกับงานที่ทำให้ได้ ซึ่งสำหรับผมแล้วมันง่ายมาก ทีวีดูครั้งเดียวต่ออาทิตย์คือช่วงที่บอลมา เกมส์ก็ไม่ได้เล่น เพราะงั้นผมเลยคิดว่าคุมตัวเองได้ง่ายหน่อย จะมีก็เพียงบ่อปลาคราฟข้างล่างแค่นั้นที่ทำให้ผมเป็นกังวลบ้าง
แล้วการตัดสินใจย้ายออกไปทำงานที่อื่นนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับผม
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาปรับตัว ปรกติตอนทำงานที่บ้าน เราแทบไม่ได้คุยกับใครเลยในแต่ละวัน ไม่ต้องสร้างแรงกดดันอะไรมากมายกับการพบเจออะไรเข้ามา แต่พอต้องออกไปทำงานข้างนอกเนี่ย สมองเราเองที่พยายามสร้างแรงกดดันมากมายว่าจะต้องเจออย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็เป็นได้ แต่การตัดสินใจนั้นไม่ควรใช้เวลานานครับ
เหตุผลหลักเลยที่อยากจะหยุดการทำฟรีแลนซ์เต็มเวลาไว้สักพักเนี่ยคือมันค่อนข้างเหนื่อยมาก สิ่งที่เหนื่อยคือตอนที่เราต้องคอยตามลูกค้าตลอดเวลาว่าให้ทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ให้ตรง timeline กับที่เราคุยกันไว้ตอนแรก บางทีลูกค้ามีหยุดรอนั่นรอนี่อย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้งานอื่นที่กำลังเข้ามาต้องชะงักออกไปก่อน ไหนลูกค้าเก่าอยากจะแทรกคิวให้ทำอะไรต่ออะไรด้วยอีก การควบคุมเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสนใจครับ เพราะเราเองก็หางานเอง คุยลูกค้าเอง สร้าง product เอง ไปจนถึง maintain แล้วก็ service ให้หลังการขายด้วย เมื่อลูกค้าเยอะขึ้น ภาระเราก็มากขึ้น
ทำอะไรคนเดียวทุกอย่างเองก็แทบจะไม่ไหว วันนึงเราอาจจะเขียนหลายภาษามาก ทำหลายงานมาก เวลากินเวลานอนก็โดนเจียดออกไป แลกกับการที่ทำอะไรอย่างอิสระ ไปทำงานที่ร้านกาแฟ หรือส่วนไหนของโลกก็ได้.. แล้วมันคุ้มกันหรือเปล่า
ผมเลยอยากจะเขียนบทความนึงขึ้นมาเพื่อเตือนตัวเอง ในวันหน้าเผื่อย้อนกลับมาจะได้เข้าใจว่าครั้งนึงเราสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานขึ้นไว้มากมายแค่ไหน เราอยู่แบบนี้มาได้ยังไงภายในช่วงเวลาเกือบสองปี เพื่อบอกตัวเองว่าเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หรือเรื่องอะไรอื่นๆ มันก็เป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็น การค้นหาอย่างที่ตัวเองไม่เคยเข้าใจมาตลอดหลังจากออกจากรั้วมหาลัย
การเดินทางมันอาจจะสั้น หรืออาจจะยาว ก็เรื่องของมัน ขอแค่ enjoy กับการใช้ชีวิต มันก็แค่นั้น
จบบทความที่ 381.