กล้องมือถือที่คุณภาพเกินราคา
ผมเองก็ทำงานเป็น freelance ได้จวบจะปีนึงแล้ว และก็มีมือถือเครื่องที่เอาไว้รับสายเฉพาะงานเป็นอีกเบอร์นึงเปิดไว้ด้วย เมื่อก่อนเวลาไปไหนต่อไหนก็มักจะลืมเครื่องสำหรับที่รับงานนั้นอยู่บ้านบ่อยๆ ก็ด้วยความที่ว่ามันไม่น่าพกออกไปไหนต่อไหนเลย เล่นอะไรก็ไม่ได้ กล้องก็ไม่มี ก็แน่ละครับมันเป็นมือถือ Nokia รุ่นไม่เกิน 500 บาทเท่านั้น หลังจากที่คิดแล้วคิดอีกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจจะไม่เหมาะแน่ ถึงแม้ว่าแบตจะอึดชาร์ตอาทิตย์นึงอยู่ได้ชิวๆ ก็ตาม เลยคิดที่จะเปลี่ยนมือถือเอาให้ดีกว่านี้หน่อย มีกล้อง มีเน็ต โหลดแอพฯ ไว้ลงเปิดใช้กับบัญชีของ JindaTheme เองเลยโดยที่ไม่ต้องสับไปสับมาระหว่างเครื่องหลัก (เครื่องหลักใช้ iPhone 5)
มี iOS อยู่แล้ว คงไม่ขยับไปเล่น iOS แบบเดิมแน่ๆ เลยมองหา Android ราคาเบาๆ สักเครื่องเพื่อให้ตอบสนองสักหน่อย ช่วงนี้มือถือ Android ก็แข่งขันกันอย่างโหดร้ายมาก ไม่ว่าจะยกสเปคแจ่มไป 3 โลก หรือราคาที่ถูกแสนถูก สุดท้ายก็หันไปโดนมือถือยี่ห้อ Oneplus One มาใช้ในราคา 1 หมื่น 1 พันนิดๆ ประจวบเหมาะพอดีที่ต้องออกไปต่างจังหวัดกับที่บ้าน เลยหยิบ Oneplus One เครื่องใหม่นี้ติดไปใช้ถ่ายรูปเล่นโน่นเล่นนี่ให้คุ้นมือด้วย ซึ่งภาพทั้งหมดส่วนมากจะถ่ายที่จังหวัด นครพนม อาจจะมีจังหวัด สกลนคร บ้างประปราย
พูดถึงเรื่องสเปคการใช้งานเบื้องต้นก่อนแล้วกัน
ROM เป็นของ Cyanogenmod รุ่นล่าสุดที่ร้านลงมาให้ พอได้เครื่องแล้วก็โหลดแอพฯ ทั่วไปเช่น Twitter, Instagram อ่านข่าวนิดหน่อย ถือเป็นเครื่องสำรองที่มี account social ของ JindaTheme ไว้ครบครัน ความรู้สึกแรกที่ใช้ก็รู้สึกได้เลยว่า Andriod มันไม่หน่วงเหมือนที่เคยใช้ Galaxy S3 เมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนี้รู้สึกใช้งานง่ายขึ้นกว่าก่อน หน้าตาดูน่าสนุกน่าค้นหา การทำงานของเครื่องดูโอเค ไม่รวนไม่ช้า ทำงานได้ถูกต้องตามที่ใจต้องการได้สบายๆ ก็แน่ละ RAM มาซะ 3GB ขนาดนั้น
ผมว่า Oneplus One นี้ให้สเปคแรงมากๆ แต่ราคาเพียงแค่ 1 หมื่นเศษ(ตอนที่ซื้อมา) ผมนี่ให้ผ่านเลยเรื่องความคุ้มค่า
แอพฯ ถ่ายภาพก็เป็นแอพฯ กล้องที่ติดมากับมือถือเลย ไม่ได้โหลดหรือปรับอะไรเพิ่มเติม ใช้โหมด Auto กับปรับลดความละเอียดภาพกล้องหลังลงมาเป็น 9.7M แทนที่จะใช้สูงสุดอย่าง 13M ด้วยซ้ำ อีกทั้งคุณภาพของภาพก็เลือกเพียงแค่ 90% ซึ่งที่ตั้งแบบนี้ในตอนแรกก็เพราะกลัวจะใช้เนื้อที่เปลือง แล้วก็เป็นไฟล์ภาพขนาด 16:9 ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้ลงเว็บไซต์ หรือบล็อกอย่างที่เห็นในบทความนี้
ที่ประทับใจตั้งแต่รูปแรกก็เห็นจะเป็นถ่ายรูปดอกไม้ที่บ้าน ซึ่งก็ค่อนข้างตกใจไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าจอมันใหญ่หรือเปล่า หรือว่ากล้องมันชัดจริงๆ ก็เลยถือว่าเป็น Oneplus one รีวิว กล้อง ไปเลยแล้วกัน
ลองถ่ายย้อนแสงก็ให้ภาพที่ค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับการนำไปถ่ายภาพที่มีแสงน้อย ส่วนนี้อาจจะสู้ iPhone ไม่ได้แต่เรื่องจอภาพ, ความคมชัด และราคาของตัวเครื่องแล้ว เรื่องนี้ทดแทนกันได้สบายมาก พูดถึงเรื่องกล้องมือถือ Oneplus One มามากพอแล้ว ซึ่งใครที่สนใจก็ลองเข้าไปหาอ่านรายละเอียดเครื่องของ Oneplus One เองได้ที่เว็บไซต์ https://oneplus.net/ ครับ
ผมไม่เคยมาเที่ยวที่จังหวัด นครพนม มาก่อน หลังจากเครื่อง AirAsia ลงที่สนามบินนครพนมแล้วก็ต่อรถออกไปที่พักซึ่งอยู่ท้ายเมือง จริงๆ แล้วนครพนมเองนี่ก็เป็นเมืองที่น่าอยู่เหมือนกันนะ บ้านเมืองดูอบอุ่นมีวิวของแม่น้ำโขงเป็นฉากหลังกั้นระหว่างประเทศไทยกับ สปป. ลาว ผู้คนออกมาเดินมาวิ่งเล่นถ่ายรูปสบายๆ ยามเย็น ถนนหนทางก็กว้างขวาง รถน้อยไม่แออัดเหมือนกรุงเทพฯ เวลาจะสัญจรไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก ซึ่งอย่างผมเองไม่ได้ขับรถไปก็โทรเรียกแท็กซี่(เหมือนกรุงเทพฯ) ให้มารับไปส่งตามที่ต่างๆ ที่ต่างกันคือแท็กซี่ที่นี่ค่อนข้างสุภาพกับลูกค้ามาก อีกทั้งขับรถนิ่มไม่หวือหวาเหมือนที่เราเห็นในเมืองหลวงกันเป็นประจำทุกวันนี้
โรงแรมที่ไปพักก็ดูสบายเหมือนเป็นบ้านหลังนึงตั้งอยู่ในซอยหน้าแม่น้ำโขงเลยครับ ชื่อว่า ” พิมศิริ ” ห้องพักค่อนข้างดี เงียบสงบ ดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับมาพักผ่อนมาก โดยโปรแกรมที่มาเที่ยวนี้ แม่ผมตั้งใจจะมาไหว้พระธาตุวันเกิดให้ครบทั้ง 7 วัน ซึ่งวันที่สองก็ได้เหมารถตู้ให้พาไปแต่ละที่ ประมาณว่าเป็นไกด์ท้องถิ่นคอยแนะนำที่เที่ยวกับตัวจังหวัดไปด้วยในตัว
อันที่จริงกล้องหน้า 5M ของ Oneplus One เองก็ชัดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ย้อนแสงยังถ่ายรูปออกมาได้ค่อนข้างคมชัดเก็บรายละเอียดได้ดี
โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่วันกลับผมป่วยอาหารเป็นพิษต้องนอนอยู่โรงแรมไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งทางโรงแรมก็ใจดีไม่ชาร์ตค่าบริการเพิ่มถึงแม้จะออกเลยเวลามาจนถึงบ่าย 3 ก็ตาม เลยได้รูปมาแค่ช่วงวันที่สองเท่านั้น สำหรับผมทริปนี้เหมือนขาดๆ หายๆ ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ก็ตอนช่วงที่ตัวเองพลาดป่วยอยู่ห้อง ไม่ได้ออกไปดูถนนคนเดิน หรือสถานที่อื่นๆ ในช่วงก่อนกลับกรุงเทพฯ โดยรวมแล้วผมค่อนข้างชอบ Oneplus One ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจในราคาช่วงหมื่นต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน รูปลักษณ์การออกแบบ ความบาง ความกระชับในการจับ หน้าจอ และรวมไปถึงความทนของแบตเตอรี่ที่สามารถปล่อยทิ้งไว้ สามถึงสี่วันได้เลยสำหรับคนที่ใช้มันเป็นเครื่องรองอย่างผม
แน่นอนว่ารูปทุกรูปไม่ได้ผ่านการตกแต่ง หรือใช้เทคนิคพิเศษอะไรเพิ่มลงไป.. แค่ resize รูปให้ลงเว็บไซต์ได้ประหยัด bandwidth เพียงเท่านั้น