บุญที่รายล้อมด้วยทุ่งข้าวโพด
ช่วงสุดสัปดาห์วันพ่อที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเขาใหญ่อีกครั้งหลังจากที่ครั้งล่าสุดเพิ่งไปมาเมื่อช่วงเดือนกันยา(ในบทความเก่าเรื่อง นำพา) แต่ไปคราวนี้ก็ไม่ถือว่าเชิงไปเที่ยวพักผ่อนเสียทีเดียว ไหนจะต้องแบกงานไปทำด้วยตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ประกอบกับการที่มาคราวนี้จริงๆ คือมาทำบุญหล่อพระพุทธรูปที่ไร่สานฝัน ตามคำเชิญชวนของเพื่อนร่วมงานของแม่
เดินทางออกจากบ้าน 6 โมงเศษ ถึงซอยปากทางเข้าไร่ประมาณ 8 โมง ซึ่งซอยทางเข้าก็อยู่เยื้องๆ เลยฟาร์มโชคชัยมาหน่อยประมาณ 2 กิโล ที่ผมบอกว่ารายล้อมไปด้วยทุ่งข้าวโพดนั้น เพราะมันเป็นทุ่งข้าวโพดตลอดเส้นทางในซอยเลยจริงๆ และไร่สานฝันก็อยู่ลึกจากถนนใหญ่พอสมควร ทางลาดมีหลุมขรุขระบ้าง นอกจากจะผ่านทุ่งข้าวโพดแล้ว ยังผ่านชุมชนเล็กๆที่ห่างไกลจากโลกข้างนอกอยู่พอสมควรด้วย
เท่าที่จำความได้ ผมไม่เคยได้มีโอกาสไปงานหล่อพระพุทธรูปเลยสักครั้งในชีวิต และนี่เป็นครั้งแรกซึ่งก็จัดพิธีแบบกันเองไม่กี่คน บอกตามตรงว่าผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวของพิธีเท่าไหร่นัก แต่ก็ดูเหมือนเป็นอะไรที่น่าสนใจ แล้วผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
เท่าที่เข้าใจคือ ไร่สานฝัน นี้จะสร้างเป็นเหมือนศูนย์ หรือลานปฏิบัติธรรมอะไรสักอย่างถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ตอนที่มาตอนเช้ามีพระพุทธรูปที่ขึ้นด้วยโมลพร้อมเทปูนลงไปหล่ออยู่แล้ว
9 โมงเศษก็เริ่มประกอบพิธีกรรม หลังจากนั้นก็นำรถปูนเข้ามาเทปูนให้พร้อมตักส่งขึ้นไปเท่หล่อลงโมล ที่น่าสนใจสำหรับผมก็เห็นจะเป็นช่วงต่อจากนี้แหละครับ ส่วนหนึ่งขึ้นไปบนนั่งร้านเพื่อรอรับถังปูนลงมาเท ส่วนคนที่อยู่ข้างล่างก็ส่งต่อถังปูนกันไปกันมา ทำนองเดียวกับสายพาน ด้วยความเชื่อที่ว่า ช่วยกันสร้างบุญ ทำบุญต่อๆกันไป
เอาตรงๆ ผมก็ไม่ได้เชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจสำหรับผมคือการใช้คนเพื่อส่งต่อถังแต่ละถังขึ้นไป แล้ววนลงมาตักใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ร่วมชั่วโมง อย่างว่า ผมมันเป็นโปรแกรมเมอร์ อะไรที่เป็น loop เราก็จะสร้าง หรือเครื่องมืออะไรก็ตามมาย่นเวลาทำงาน หรือทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยแบบ multitask เหมือนที่เทคโนโลยีสมัยนี้ทำกัน
แต่สำหรับนี่ มันไม่ใช่, no machine no programming
ไม่รู้สิครับ คนอื่นอาจจะมองว่าธรรมดาก็ได้ แต่สำหรับผมแล้วมันเหมือนมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ทุกวันนี้เราวิ่งตามเทคโนโลยีจนลืมไปว่าเราเองที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมา ยิ่งกับคนสมัยใหม่หรือวัยรุ่นสมัยนี้แล้ว แทบจะไม่ค่อยได้เห็นภาพเหล่านี้มากนัก อะไรๆ ก็ใช้เครื่องทุ่นแรงเพื่ออำนวยความสะดวกมันทั้งหมด เราอาจจะรัก และหวงเวลามากขึ้นกว่าเมื่อก่อนก็จริง
แต่บางครั้ง.. เราเองก็ลืมไปว่า เราลืมวิธีทำเรื่องบางเรื่อง หรือละเลยวิธีบางวิธีไปแล้วหรือเปล่า