เงาสะท้อนวัตถุ
ฟิล์มม้วนที่ 3 นี้ต่างจากม้วนก่อนๆ ตรงที่ม้วนนี้เป็นฟิล์มที่ยังไม่หมดอายุ ในช่วงหน้าร้อนนี้ ผมอยากจะถ่ายรูปเซ็ทหนึ่งเพื่อบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับวัตถุ หรืออะไรบางอย่างก็ได้ที่มาพร้อมกับแสงแดด จึงได้เป็นชุดที่อยากจะสื่อเกี่ยวกับ เงาที่ตกกระทบกับวัตถุ หรือ ใครคนใดคนหนึ่งเข้ามาในภาพ ถ้าทุกอย่างล้วนเป็นวัตถุ หนึ่งวัตถุล้วนมีเงาตามตัว
แล้วถ้าเงานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเงาของตัวมันเองล่ะ..
ช่วงกลางๆ ถึงปลายฟิล์มนี้ ผมได้พากล้องไปถ่ายรูปเล่นที่ ม ด้วย ได้กลับไปเห็นบรรยากาศเก่าๆ ก็อดคิดถึงช่วงเวลาที่ยังวนเวียนเรียนอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทุกอย่างผ่านไปไวจริงๆ ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเกือบจะครบรอบปีที่ผมออกมาจากรั้วมหาลัยแล้ว
มีหลายครั้งหลายคราที่ใจนึก นึกอยากจะกลับไปเรียนอีกครั้ง ใช้ชีวิตแต่ละช่วงเวลาให้คุ้ม ไม่ใช่แบบทุกวันนี้..
ทุกครั้งที่ไปเอาฟิล์มที่สั่งอัดไว้ ผมจะรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อได้เปิดอัลบัมรูปที่ร้านล้างมาให้ มันให้ความรู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับดิจิตอล มันเหมือนราวกับว่าเรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ทุกครั้งที่เราเปิดอัลบัมเพื่อดูรูปฝีมือที่เราตั้งใจถ่าย และ คาดหวัง มันเหมือนกับได้ของเล่นใหม่ เหมือนทำให้เรามีไฟ และ พร้อมจะกลับไปยิงภาพตามที่เราอยากจะให้มันเป็นไปอีกหลายต่อหลายม้วน
ฟิล์มก็ยังคงเป็นแค่ฟิล์ม ไม่มีการแต่งเติม.. สวยงามจากสิ่งที่มันทำได้จริงๆ
อาทิตย์หน้าจะเป็นวันที่ผมรับปริญญา ต้องเข้าพิธีทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ต้องการ แต่บางทีการตัดสินใจนั้นก็อาจจะไม่ใช่ของเราเสมอไปหรอกครับ ในเมื่อยังมีหลายคนที่คาดหวังอะไรต่ออะไรหลายอย่างในตัวเราอยู่ บางทีการนั่งรอในห้องประชุมเฉยๆ 4-5 ชั่วโมงนี่ก็เหมือนทรมาณกันทางอ้อมแล้ว
รถติด ที่จอดรถ คนเยอะ แย่งกันถ่ายรูป เสียงดัง วุ่นวาย การรอคอย.. ไหนจะเรื่องที่จำเป็นต้องทำอื่นๆ อีก ชีวิตนี่เยอะจริงๆ
เหตุผลที่อยากจะถ่ายภาพเงาสะท้อนวัตถุนี่จริงๆ ก็อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ เคยคิดกันหรือเปล่าครับ ช่วงเวลาที่เรานั้นค่อนข้างสับสนกับสิ่งที่เรากำลังจะทำ บ่อยครั้งที่เราทำอะไรต่ออะไรอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลนัก เมื่อใครถามว่าทำไปทำไม บางทีเราก็ตอบแบบห้วนๆ ไปว่า “ไม่รู้เหมือนกัน” บางทีเราไม่ได้ตั้งใจจะกวนหรืออะไรหรอก แต่ลึกๆ ข้างในบางครั้งบางคราก็ยังหาเหตุผลมาตอบคำถามให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
เหมือนกับหลายๆ ครั้ง ที่เวลาเราไปทำอะไรมา แล้วมีคนถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” เรามักจะตอบไปด้วยคำพูดห้วนๆ สั้นๆ ว่า “ก็โอเค” หรือ “ก็ดี” หรือ “เฉยๆ” หรือแค่ “ก็ไม่เห็นมีอะไร” ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะเล่ามันยังไง หรือ แค่ไม่อยากจะเล่ามันออกมา.. แค่นั้น
มันก็คงคล้ายๆ กับเงาที่กำลังสะท้อนวัตถุอะไรบางอย่างนั่นแหละครับ เรารู้กันดีเมื่อมีแสงกระทบกับวัตถุที่ด้านใดด้านหนึ่งจะเกิดเป็นเงาตรงข้ามกับด้านที่ถูกแสง มันก็เหมือนเงาตามตัวตามวัตถุ แต่ถ้าต่างกันที่ว่า เงานั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นเงาของตัวเองเสมอไป อย่างเช่นเงาตกกระทบที่ด้านหลังของรูปจานดาวเทียม
มันก็เหมือนกับว่า เรากำลังคิดถึงเรื่องของใคร ความรู้สึกของใคร ทั้งๆ ที่ความรู้สึกนั้นไม่เคยได้เป็นของเราเองเลยแม้แต่น้อย.. ก็แค่คนเพ้อเจ้อ