กับฟิล์มม้วนที่ 6
วันก่อนนึกอยากถ่ายรูป ก็เลยตัดสินใจหาที่เดินทางแบบวันเดียวเช้าเย็นกลับ ตอนแรกก็กะว่าจะไปถ่ายรูปวัดวาอารามแถวอยุธยา แต่คิดไปคิดมา.. อยุธยาก็ไปจนบ่อยแล้ว อีกอย่างคนน่าจะเยอะด้วยเพราะเป็นวันอาทิตย์ เวลาไปหาสถานที่ถ่ายรูปแล้วได้รูปแต่หัวคนนี่ก็ค่อนข้างจะน่าผิดหวัง ยิ่งเป็นกล้องฟิล์มด้วยแล้วนี่แทบจะไม่ต้องพูดถึง
สุพรรณบุรี คืออีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเคยออกไปถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลเมื่อสักประมาณปีสองปีก่อน เส้นทางก็วิ่งสะดวก รถไม่เยอะมาก แล้วก็ไม่ไกลกว่าอยุธยาเสียเท่าไหร่ ช่วงเช้าท้องฟ้าเปิด อีกทั้งแดดแรงพอสมควรเลยหยิบฟิล์มขาวดำติดกล้องไปน่าจะได้อารมณ์มากกว่าภาพสี
ขับรถออกมาจากบ้านได้สักประมาณชั่วโมงเศษๆ ก็ตัดสินใจว่าจะเข้าไปเก็บภาพที่วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง ก่อนเข้าเมืองสุพรรณเสียหน่อย ในวัดมีพื้นที่กว้างขวางแล้วก็แบ่งส่วนต่างๆ ออกเป็นหลายส่วน คนไม่พลุกพล่านมากน่าจะได้ฝึกถ่ายภาพขาวดำไปในตัวด้วย
อากาศช่วงบ่ายค่อนข้างอบอ้าวทีเดียว ทำเอาเดินถ่ายรูปกลางแจ้งนี่ลำบากพอสมควร หลังจากถ่ายรูปที่นี่ได้สักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาเดินทางต่อ ตอนแรกก็ว่าจะแวะหาร้านอาหารในเมืองสุพรรณกินข้าวก่อน แต่ก็หาร้านอาหารยากไม่เหมือนกับอยุธยาที่เวลาจะกินข้าวที ก็ไปเลือกแถวริมแม่น้ำได้เกือบสิบร้าน
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว.. ถึงศาลหลักเมืองก่อนก็เลยแวะเที่ยวถ่ายรูปก่อนแล้วกัน
ไม่ได้มาประมาณปีนึง อะไรๆ ดูเหมือนเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียว ทั้งที่จอดรถ หมู่บ้านมังกรที่เข้าใจว่าเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ มีทั้งร้านขายของฝาก ของเล็กๆน้อยๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน แล้วก็มีร้านอาหารอยู่สองสามร้าน เลยตัดสินใจแวะทานข้าวกลางวันที่นี่กันไปเลยแล้วกัน
ทานข้าวเสร็จก็เดินถ่ายรูปโน่นนี่นั่นสักพักก่อนจะเข้าไปทำบุญไหว้พระ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมาถึงค่อนข้างเย็นแล้ว ก็เลยไม่ค่อยเจอผู้คนพลุกพล่านเท่าไหร่ สถานที่ใหญ่โตแต่คนมาเที่ยวก็บางตา ถือว่าเป็นข้อดีของการถ่ายรูปวันนี้ไปแล้วกัน
จะว่าไป ก็ถ่ายกันเองเยอะอยู่พอสมควร
ส่วนตัวแล้ว ผมว่าขาวดำนี่น่าจะสื่อถึงอารมณ์ได้ดีกว่าภาพสี ยิ่งถ้ามีแบบที่แสดงอารมณ์ทางสีหน้าออกมาชัดเจนนี่แทบจะบอกอะไรต่ออะไรบนภาพหนึ่งภาพได้มากเลยทีเดียว ฟิล์มม้วนนี้ถ่ายเสียบ้าง มืดบ้าง เยอะพอสมควร บางครั้งก็ลืมว่าใส่ฟิล์มขาวดำอยู่ แต่ก็ยังไปถ่ายอะไรมั่วไปหมด
แต่ก็ชอบขาวดำอยู่เหมือนกันเพราะให้ contrast ภาพที่ทุ้มกินใจมาก บางรูปที่เราไม่คิดว่าจะออกมา dark ตัดกันเห็นเป็นความเข้มอ่อนชัดเจนก็น่ารู้สึกดี เวลาเก็บไปลงอัลบัมกาวแล้วดูมีอะไรดี รูปปลายๆ ฟิล์มนี้ถ่ายในหมู่บ้านบ้าง แล้วก็นำไปถ่ายตามวัดต่างๆ ใกล้บ้านบ้าง ไม่อยากให้หลุดคอนเซ็ปของฟิล์มม้วนนี้ไป
ภาพอะไรที่เราเห็นกันบ่อยๆ วันนึงมันก็จะกลายเป็นภาพชินตา ที่อาจจะไม่รู้สึกอะไร หรือรู้สึกอะไรมากจนแยกไม่ออกว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว(เพราะพบเจอบ่อย) หรือด้วยอะไรก็ตามแต่
แต่เมื่อวันนึงกลับสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป เราจะรู้ดีว่าวันนั้นเราจะรู้สึกยังไง..
ที่จริงก็แอบเสียดายภาพสุดท้ายนี้เหมือนกัน ตอนแรกก็กะตั้งใจว่าจะให้ใบหน้าของยายคนนี้เด่นกว่าส่วนอื่นๆ ในรูป แต่ก็ดันมืดจนแทบจะมองไม่เห็นไปเลย.. เราอาจจะมองข้ามสิ่งที่เราคิดว่ามันเล็กน้อย แต่ความเล็กน้อยของเรานั้นอาจจะเป็นความรู้สึกทั้งหมดทุกส่วนของใครบางคนก็เป็นได้