อะไรพังต้องซ่อม หรือ อะไรพังต้องเปลี่ยน
เราจำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินจากที่ไหนมา แต่มันค่อนข้างที่จะจริง วัยรุ่นสมัยนี้เร่งรีบร้อนรน อยู่ในช่วงที่การรอคอยเป็นเรื่องน่าเบื่อ จนเราคิดอยู่ในหัวเสมอๆว่า จริงๆแล้ว.. เราเกิดในยุคที่ของอะไรพัง ต้องซ่อม นำกลับมาใช้ใหม่ หรือว่า ยุคที่ของอะไรพัง จะซ่อมทำไม เสียเวลา เปลี่ยนไปเลยจะดีกว่า กันแน่
เราไม่รู้หรอก, ว่าโลกของเราหมุนเร็วแค่ไหน แต่เราเปลี่ยนตัวเอง ทำทุกอย่างให้ตัวเองอยู่ในช่วงเวลาที่ทันเทคโนโลยีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากโลกที่เคยใช้เวลามากในการรอคอย ทุกวันนี้กลับน้อยลง ทุกอย่างหมุนเร็วมากขึ้น.. มันมากเสียจนเกือบลืมไปแล้ว ลืมว่าเราเคยรอคอยอะไรได้นานแค่ไหน ทำไมคนสมัยก่อนอดทนรอคอยที่จะเจอกันได้นานแสนนาน กว่าจะได้พูดคุยกันแต่ละครั้ง ก็ต้องสั่งสมเวลา สั่งสมความคิดถึง ทำให้การเจอกันแต่ละครั้งนั้นหอมหวาน ผูกพันธ์เนิ่นนานนับสิบปี..
ช่างแตกต่างกับสมัยนี้.. กับแค่การเข้าคิวซื้อของเล็กๆน้อยๆยังรอกันไม่ได้ ต้องแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองปรารถนา เราเบื่อกับการอดทนการรอคอยมากขึ้น โหยหาแต่ความรวดเร็ว หมุนตัวเองให้ตามเทคโนโลยีต่างๆให้ทัน ครั้งหนึ่งเราเคยคิดว่า เราติดตามเทคโนโลยีทุกอย่างบนโลกใบนี้เพราะมันเกี่ยวกับสายงานอาชีพของเรา มันก็เหมือนกับจะเป็นข้อดีนะ ที่เหมือนจะรู้อะไรก่อนคนอื่นๆ แต่เราไม่เคยคิดถึงปัจจุบันกับความคิดที่เป็นอยู่ตอนนี้ของเราเองเลย
ไม่เคยนึกถึงเลย..
ไม่เคยนึกว่ามันจะทำให้เรามีความอดทนอะไรต่ออะไรน้อยลง การรอคอยเป็นเรื่องที่ต้องหาทางออกเพื่อให้ดีขึ้นเสมอๆ จนเราเปลี่ยนความคิดตัวเองไปอย่างช้าๆแล้วว่า “ถ้าของอะไรพัง เราคิดถึงเรื่องซื้อใหม่ มากกว่าการมาคิดว่า มันจะซ่อมได้หรือเปล่า ซ่อมแล้วคุ้มหรือเปล่า ซ่อมแล้วกลับมาเหมือนเดิมหรือเปล่า”
เราทำโปรเจคมาไกลแล้ว บัคเยอะเหลือเกิน..จะแก้ไขหรอ, เริ่ม new project ใหม่ดีกว่ามั้ง
ได้ยินบ่อยเหลือเกิน, บ่อยเหลือเกิน
แต่สิ่งที่เราคิดมาเสมอนั้นมันอาจจะใช้กับเรื่องใดไม่ได้เรื่องนึง.. มันไม่เคยใช้ได้เลย กับ เรื่องใดเรื่องนึง
ถ้าคนที่เรารักคิดเหมือนเราเสมอๆ.. เหมือนเราที่รู้สึกว่าเจออะไรแล้วเหนื่อย แล้วไม่สบายใจ เขาเหล่านั้นเลือกที่จะไม่อยากแก้ไข เลือกที่อยากจะเปลี่ยนไป, เราคงไม่มาอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าพ่อแม่เราเลือกที่จะปล่อยเราไป ไม่ดูแลไม่ใส่ใจ ในวันที่เรานั้นแสนจะงี่เง่าเหลือเกิน เราคงไม่ได้อยู่เป็นเราอย่างทุกวันนี้ มันน่าดีใจแค่ไหน.. ที่เขารู้ว่าเราทำผิดอะไรต่ออะไรมามากมายแค่ไหน แล้วเขายังไม่เลือกที่จะจากไป.. เลือกที่จะให้โอกาสเราได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง เลือกที่จะเริ่มความรู้สึกใหม่กับเราหลายต่อหลายครั้ง
มันน่าดีใจแค่ไหน, ที่ใครบางคน ยังให้โอกาสเราได้มากมายเหลือเกิน..
ถนอมความไว้ใจนั้น,และ รักษาเขาไว้ให้ดี