เคยคิด.. เคยคิดว่าจะเขียนหนังสือ
ยอมรับว่าไม่ได้มาเขียนบล็อกนานพอสมควร เหมือนจะห่างๆไป ไม่เหมือนแต่ก่อน.. ผมไม่ได้หายไปไหนครับ อยากจะหาแรงบันดาลใจตามบทความที่แล้ว(แรงบันดาลใจ .. อยู่ที่ไหน) ประกอบกับมีเรื่องอะไรให้คิด ให้ทำ วุ่นวายตลอด แล้วก็เรื่องเรียนจบด้วยเช่นกัน
การตัดสินใจนั้นยากเสมอ.. บางครั้งการมีตัวเลือก ก็ทำให้เราเป็นทุกข์, เป็นทุกข์ที่ต้องเลือก ต้องคิด ต้องชั่งใจเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ผมต้องตัดสินใจกับคำถามอย่างนึงที่เกิดขึ้นในใจอยู่ตอนนี้ “เรียนจบ แล้วจะทำอะไรต่อ” ใจหนึ่งก็อยากที่จะเรียนต่อโทไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด กลับอีกใจหนึ่งก็อยากจะได้ประสบการณ์ เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่สักพักก่อน ให้เห็นค่า-รู้ค่าของเงิน ความยากลำบาก ความกดดัน.. จนสุดท้าย ผมตั้งใจที่เลือกอย่างหลัง
สิ่งที่ผมอยากจะได้จากคนแก่ คนนึง ไม่ใช่อะไรเลย… เป็นเพียงประสบการณ์ที่เขามีบนโลกใบนี้ เพื่อให้เราสามารถนำประสบการณ์นั้นมาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และ ไม่พลาดพลั้ง ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงๆ ….. มนุษย์คงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย จาก ความผิดพลาด ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ผลดีอีกเหมือนกัน.. แล้วความจริง หากเลือกได้ เราควรเลือกมีเกราะป้องกันความผิดพลาดตลอดเวลา ทำผิดอะไรก็ได้โอกาสอยู่เสมอ หรือ เลือกที่จะไม่มีอะไรเลย เจอแพ้ความผิดพลาด พบแต่ความผิดหวังในตอนแรกเสมอ และ ไร้ซึ่งโอกาสที่จะแก้ตัว ซึ่งเพื่อเรียนรู้ และ ประสบความสำเร็จเองในเวลาต่อๆมา
มนุษย์อยากตัดสินใจเลือกสิ่งใดมากกว่ากันนะ..?
การที่เราต้องสูญเสียของรักอย่างใดอย่างหนึ่งที่เรารักมากไป ความรู้สึกนั้นย่อมเกาะกินใจให้เราจมอยู่กับอดีตอยู่พักนึง เพื่อนผมคนนึงบอกว่า ตอนที่เราอ่อนแอทางความรู้สึก มันก็เหมือนกับเวลาที่เราเดินตกท่อ มีผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหัวเราะเยาะเย้ยมากมาย แต่วันนึงเราก็จะขึ้นมาจากท่อนั้นได้ แล้วก็เป็นบทเรียนให้เราระวังไม่ให้เดินตกท่ออีก.. ให้เราระวังไม่ให้ทำตัวเองให้จมกับอดีตอย่างมากมายอีก…
มีหลายเรื่องครับ.. หลายเรื่องเลยที่ผมสงสัย, เรายึดติดกับคำพูดของใครบางคนที่เรารักและจากไป หรือ เรายึดติดกับการกระทำของใครบางคนที่เรารักและจากไปมากกว่ากัน ในเวลาที่เราอ่อนแอ ผมสงสัยว่าอะไรที่ย้อนกลับมาทำร้ายเรามากกว่าบนความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ อาจจะเป็นแค่เพียง กลิ่นน้ำหอม ? เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่ ? สถานที่ที่เราเคยไป ? วันเวลาที่มีร่วมกัน ? ความรู้สึกดีๆที่ยังเหลือให้กัน.. หรือความทรงจำที่ฝังลึก และ ยังเจ็บปวดในทุกๆคืนที่หวนคิดถึงก่อนหลับตานอนกันแน่
ผมเชื่ออย่างนึงนะ เวลาที่เราระบายสิ่งที่หนักอึ้งอยู่ในใจให้กับอะไรที่มันคอยรับฟังเราอย่างเดียว-โดยที่ไม่โต้ตอบคำพูดใดๆขึ้นมา แต่เหมือนกับว่ามันเข้าใจเรามากมายเหลือเกิน ผมเชื่อว่าสมุดหนึ่งเล่มช่วยอะไรผมได้มากกว่าการแค่เขียนมันลงไป เพราะในช่วงเวลานั้นเองที่เราต้องการเขียน.. เราจะใส่ความรู้สึกมากมายฝังลงไปบนน้ำหมึกให้เกิดเป็นตัวอักษรได้ และ เมื่อวันนึงผมเปิดย้อนกลับมา ผมจะปลอบใจตัวเองเบาๆว่า วันข้างหน้าผมคงไม่ใช่แบบนี้ คงไม่แบกภาระทางความคิดมากมายเท่ากับตอนที่เกิดขึ้นไปก่อนแล้ว..
มันอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดของผมเองก็ได้.. อย่างว่า ชีวิตเรามันสั้นเกินกว่าจะทำตัวให้เป็นคนอื่น เลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง แสดงสิ่งที่ตัวเองพอใจจะเป็นออกมา แล้ววันนึง.. เราอาจจะได้พบกับคนที่เขาชอบและรักในความเป็นตัวของเราเองก็ได้ … ถ้าเรายังมองโลกในแง่ดี
เพียงแต่วันนี้ เราแค่เกลียด.. เกลียดตัวเองเสมอ ที่เราไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เพียงเพราะผ่านหรือพบเจอสิ่งของบางอย่าง หรือ…… แค่ใครบางคน เราอาจจะแค่เกลียด เกลียดความเป็นจริงในบางครั้ง เกลียดสิ่งของบางสิ่ง เกลียดวันเวลาที่แสนเป็นทุกข์ เกลียด ” ใครสักคนที่ทำร้ายความรู้สึก ” อยู่มากมายเหลือเกิน
คำว่า เกลียด มันทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่าง, เกลียด มันเหมือนจะดูเป็นคำที่ค่อนข้างโหดร้ายต่อความรู้สึกผมอยู่เหมือนกัน คำว่า เกลียด ของใครหลายคนมักจะเป็นในแง่มุมเชิงลบเสมอ.. จนผมอยากจะรู้อย่างจริงๆจังๆแล้วล่ะว่า มันไม่มีอะไรดีบนความเกลียดชังนี้เลยหรือยังไง
” ผมรักผู้หญิงคนนี้มากมายเหลือเกิน ผมไม่สามารถลืมคุณได้ ผมอยากจะขอร้อง ขอร้องกับตัวเอง ให้หยุดคิดถึงคุณในทุกๆคืน ผมอยากหยุดพัก-หยุดร้องไห้ หยุดคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ผมอยากกลับไปเป็นตัวของตัวเองเหมือนเมื่อก่อน วันเวลาผ่านไป.. มันยิ่งทำให้ผมกลับยิ่งจำเรื่องราวต่างๆมากขึ้น มากขึ้น ในความรักที่มีต่อคุณ… ผมโกรธ ผมเกลียด ที่คุณต้องทำให้ผมเป็นแบบนี้ แต่ ผมก็ไม่อยากที่จะโกหกตัวเอง….. ว่าผมยังรักคุณอยู่ ”
” ได้โปรด ได้โปรดเถอะ ผมอยากจะขออ้อนวอนต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ลืมเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดของเราออกไป บางสิ่งบางอย่างกำลังบอกผมว่า.. ผมกำลังจะอยู่คนเดียวไม่ไหวอีกแล้ว ผมอยากจะคิดเสียว่า.. ทุกคืนที่ผมนอนทนทุกข์ตามลำพัง ขณะที่คุณเจอใครมากมายหลายคนในทุกๆคืนนั้น- มันเป็นเพียงฝันร้ายที่เกิดขึ้น และ กำลังจะผ่านไป
ผมค่อยๆจมลงในอดีต.. จนผมรู้สึกว่า ผมไม่อยากมีอีกแล้ว….. ความรู้สึก ”
คุณว่า, เรื่องดังกล่าวมีอะไรดีบ้างอยู่บน.. ความเกลียดชัง ?