เสน่ห์บางปะกง.. ที่ เมืองแปดริ้ว

ครึ่งวันในฉะเชิงเทรา อิ่มบุญ สราญใจ

เมื่อวันสองวันที่ผ่านมามีทริปไปทำบุญไหว้พระที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป้าหมายหลักๆก็คือจะไปวันสมานรัตนาราม เห็นทั้งโฆษณาทั้งการบอกต่อรวมไปถึงการแชร์ขึ้นบน Social network อย่างมากมายเหลือเกิน ก็ลองหาข้อมูลในเน็ตแล้วก็วิธีการไปอยู่พักนึงก็ได้ฤกษ์งามยามดีวันพฤหัสที่ผ่านมา ตามสไตล์ไปวันธรรมดาที่ไม่ชอบคนเยอะๆเหมือนๆเคย เริ่มออกเดินทางสิบโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ถึงเมืองแปดริ้วร่วมเที่ยงพอดี.. ร้อนชิหายเลยครับ

วัดแรกที่ได้แวะตามธรรมเนียมของคนที่มาเที่ยวแปดริ้วก็น่าจะเป็นวัดโสธรและได้สักการะหลวงพ่อโสธร ถึงแม้ว่าจะเป็นวันธรรมดาแต่บอกได้เลยว่าคนยังแน่นและเยอะพอสมควรเลยทีเดียว กับอากาศร้อนๆแดดจ้าแสบหูแสบตาแบบนี้ แต่ผมก็ยังเหมือนๆเดิม ถึงร้อนเหมือนทุกทริป ก็หยิบกล้องออกมาเก็บภาพเหมือนทุกทริป อิอิ

หลังจากได้ทำบุญเสร็จแล้วก็ได้มีโอกาสเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศโบสถ์ใหม่ที่อยู่ติดๆกัน บอกได้เลยว่าสร้างได้สวยงามมาก ดูใหญ่โตและไม่แออัดเหมือนโบสถ์เก่าที่เพิ่งไปเมื่อสักครู่ ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักใหญ่ๆก่อนที่จะเดินทางต่อออกไปทานข้าวกลางวันริมแม่น้ำบางปะกง พอถามไถ่ได้ลายแทงจากคนแถวนั้นก็ได้ความว่า ร้านมธุรสเรือนแพ ก็น่าลองเหมือนกัน

มาตามนัดกับร้านที่คนท้องถิ่นบอกครับ ร้านเป็นแพอยู่บนแม่น้ำบางปะกงบรรยากาศเงียบสงบดี อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นบ่าย 2 เลยคนน้อยหน่อย มาถึงทั้งที่ก็ต้องกินกุ้งแม่น้ำ ก็เลยสั่งกับข้าวมาสัก 2-3 อย่าง (เสียดายลืมหยิบกล้องลงมาจากรถ เลยต้องใช้มือถือถ่ายไปคร่าวๆก่อน) ก็ตามภาพที่เห็นมียำสามกรอบ ทอดมันกุ้ง และต้มยำกุ้งแม่น้ำ

กุ้งจะเยอะไปไหน.. ถึงจะบ่น แต่ก็กินหมด

เรื่องราคาโดนกันไป 1000 บาทถ้วน ถ้าถามว่าแพงมั้ย ก็แพงอยู่นะกิน 2 คนกับข้าว 3 อย่าง อาจจะเป็นเพราะต้มยำกุ้งแม่น้ำที่ตกหม้อละ 650 เข้าไปแล้ว แต่ก็อย่างว่า กุ้งตัวใหญ่ใส่มาซะเยอะขนาดนี้ก็น่าจะคุ้มแล้วมั้งกับที่กินเข้าไป หลังจากเอร็ดอร่อยกับราคาจากที่นี่แล้วก็ไปต่อกันที่วัดสมานรัตนารามตามที่ตั้งใจไว้ ตอนไปก็งงๆอยู่เหมือนกันว่าจะหลงหรือเปล่า ถามทางคนแถวนั้นไปเรื่อยก็มาถึงวัดจนได้

เห็นที่จอดรถมีเยอะมาก คาดว่าวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดคนน่าจะจอดกันเต็ม แต่พอดีช่วงที่ไปถึงราวบ่าย 3 ครึ่งเลยโล่งๆหน่อย แต่ก็ยังร้อนเหมือนเดิม

วัดนี้ใหญ่มากจริงๆ และตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบางปะกงอีกด้วย ลานไหว้ พระพิฆเนศ หันหน้าออกแม่น้ำลมโชยเย็นสบายเป็นทำเลที่สวยเหมาะกับการท่องเที่ยวและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ของวัด คือจริงๆแล้วก็นึกว่าวัดสมานรัตนารามจะมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเดียว แต่พอมาจริงๆจะเห็นว่ามีหลายอย่างมากอย่าง พระราหู กับ เจ้าแม่กวนอิม เรียกได้ว่ามาวัดเดียวได้เกือบหมด

ออกจากวัดเดินทางกลับกรุงเทพฯก็เย็นพอดี ก็ถือว่าเมืองแปดริ้วหรือฉะเชิงเทรานี้ก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯสักเท่าไหร่ ที่ดูไว้ตอนแรกอาจจะแวะตลาดร้อยปีหรือตลาดคลองสวนก่อนกลับเสียหน่อย แต่ตอนนั้นเย็นมากแล้วและก็ไม่ใช่วันหยุด ร้านค้าน่าจะปิดเร็วและเปิดน้อยด้วยมั้ง แต่ส่วนตัวก็คิดว่าใช้เวลาครึ่งวันได้ค่อนข้างคุ้มอยู่เหมือนกัน จบทริปจังหวัดฉะเชิงเทราไว้เพียงแต่เท่านี้ ถ้าถามเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทางก็ไปตกอยู่ที่ค่าน้ำมันกับค่าทางด่วนเสียมากกว่า

ถ้ามีโอกาสลองไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งครับ จะได้บอกใครต่อใครได้ว่า ฉันเคยมาแล้วนะ อย่างเต็มปากเสียที

Jir4yu.