ถ้าคิดจะ.. ซ่อมแซมความรู้สึก

ทัศนคติ ของ.. ความรู้สึก

หากเราซ่อมแซมความรู้สึกที่เสียกันไปได้เหมือนกับการแค่รีบู๊ตเครื่องคอมพ์ก็อาจจะดี .. บางทีการเสียความรู้สึกอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจลึกๆข้างใน ถึงแม้ว่าการแสดงออกมาภายนอก เราอาจจะดูเหมือนไม่เป็นอะไร และเหมือนจะรับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไหว แต่ก็อย่างว่า..

มันก็เหมือนคุณกำลังจะซ่อมแก้วที่แตกให้กลับมาเป็นแก้วใบเดิม ทั้งที่รู้ดีว่า ลบรอยแตกร้าวของแก้วใบนั้นให้หายหมดไปจริงๆไม่ได้ .. บางครั้ง เราพยายามเพื่อที่จะฝืนความรู้สึกโดยการหาจุดสนใจอื่นมาเบนความคิดเราให้ออกพ้นไปจากความเสียใจนั้น จนลืมคิดไปว่า ในส่วนลึกนั้นรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าที่เป็นอยู่

นั่นก็เพราะ ทุกๆครั้งที่เราคิดจะลืม คือ ทุกๆครั้งที่เราคิดถึง..

ความรู้สึกส่วนลึกได้แสดงออกในเวลาที่เราไม่รู้ตัว เช่น เวลาฝัน ซึ่งเราไม่สามารถฝืนที่จะหยุดความคิดในช่วงเวลานี้ได้ ในขณะที่ความคิดกำลังดำเนินต่อไปในความฝัน สิ่งต่างๆที่เราไม่อยากจะนึกถึงก็ค่อยๆย้อนกลับเข้ามาทำร้ายความรู้สึกที่เราควบคุมไม่ได้ที่จะคิด จนที่สุดเกิดเป็นความเสียใจ และ ถูกปลดปล่อยออกมาผ่านน้ำตา ที่ใครหลายคนเรียกกันว่า ร้องไห้ในฝันที่ตื่นมาสู่โลกความเป็นจริงแล้วยังร้องไห้อยู่

บางทีคนเราก็แปลก รู้สึกอย่างแต่คำพูดออกมาอีกอย่าง นั่นอาจจะเป็นเพราะกลัว.. เรามักที่จะกลัวสิ่งเหล่านั้น กลัวที่จะพูดแล้วเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างอย่างไป หรือ เรารับความจริงที่จะเกิดขึ้นไม่ได้กันแน่ ..

แต่นั่นคือความคิดของผู้ที่จะพูด แต่เขาไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกลึกๆในใจของผู้ฟัง ในทางกลับกัน เมื่อคนฟังรู้ว่าอีกคนไม่ได้พูดสิ่งที่ค้างอยู่ในใจออกมาตรงๆ แต่กลับบ่ายเบี่ยงพูดแสร้งอีกอย่าง

ผมว่า ความรู้สึกมันน่าจะโดนทำร้ายมากกว่า.. ผู้ที่คิดจะพูดแต่ไม่พูดด้วยซ้ำไป

คุณจะต้องคิดอะไร.. ในเมื่อใครบางคนไม่ได้ต้องการอะไร มากกว่าความมั่นใจในตัวใครอีกคน ก็เท่านั้นเอง..

กำลังจะเขียนหนังสือครับ หาแรงบันดาลใจอยู่ .. อย่าคิดอะไรมากกับแค่ตัวหนังสือเพียงไม่กี่ตัวเลยครับ

Jir4yu.

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ