คีย์บอร์ดแบบกลไก .. สิ่งที่น่าสนใจของคนใช้คอม
หลายต่อหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า Mechanical Keyboard มันเป็นยังไงหน้าตายังไง แล้วต่างจาก Keyboard ทั่วไปยังไง ผมก็เพิ่งจะมารู้จักเจ้าคีย์บอร์ดแบบกลไลหรือ Mechanical Keyboard นี้ได้ไม่นานหรอกครับ ด้วยความที่ว่าคีย์บอร์ดที่ใช้อยู่ปัจจุบันมันไม่ค่อยตอบสนองกับการใช้งานพิมพ์งานหรืออะไรๆมากสักเท่าไหร่ ก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆจนพบกับคีย์บอร์ดแบบกลไกนี้ และก็เกิดความสนใจเลยต้องไปลองตามร้านขายต่างๆ จึงได้มาครอบครองในที่สุดครับ
ใครหลายคนใช้คอมพิมพ์งานเป็นชีวิตประจำวันเสมือนเป็นส่วนหนึ่งไปแล้ว บ้างก็ใช้คีย์บอร์ดแบบเดิมๆที่ใช้กันอยู่อันละ 300 – 500 บาท หรือบ้างก็ใช้คีย์บอร์ดกันหลักพันเกือบถึงหมื่นก็มี แต่ข้อแตกต่างระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้นผมคิดว่ามันเป็นความชอบส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วย เมื่อก่อนผมก็คิดว่าคีย์บอร์ดกับเมาส์เนี่ยจะเอาแพงไปทำไม เอาแบบถูกๆมียี่ห้อหน่อยอย่าง Microsoft หรือ Logitech ก็ได้แบบคุณภาพแล้ว หรือบางทีเดี๋ยวนี้อาจจะได้ครบชุดเป็น Wireless ไปแล้วอีกตะหาก
ก่อนที่ผมจะย้ายมาใช้เจ้า Mechanical Keyboard นี้ผมเปลี่ยนคีย์บอร์ดมาหลายตัวอยู่เหมือนกัน พยายามหาที่เหมาะกับมือที่ค่อนข้างใหญ่ของผม แล้วก็ปุ่มสัมผัสที่ไม่ต้องออกแรงกดมากนักเพราะเป็นคนชอบพิมพ์เร็วพิมพ์กระแทกอยู่บ่อยๆ แล้ววันนี้เองหลังจากเล็งหลายยี่ห้อหลายแบบมานานก็ได้ซื้อกลับมาใช้ด้วยตัวเองที่บ้านสักที ..
ใช่แล้วครับ พอใช้ก็สังเกตเห็นความแตกต่างของราคาและคุณภาพอย่างชัดเจน เหมือนบทความที่ผมพูดถึงเรื่องหูฟังบ้านๆกับหูฟังหลายพันหลายหมื่นนั่นแหละ ที่บทความนี้ ว่าด้วยเรื่องของ หูฟัง(Headset)
ผมเดินทางไปลอง Mechanical Keyboard แบบจริงๆจังๆก็วันนี้แหละครับ ที่พันธ์ทิพย์งามวงศ์วานตามร้านที่เพื่อนแนะนำ และก็ได้ยืนลองหลายแบบหลายยี่ห้อหลายรุ่นจนเกรงใจคนขายเหมือนกัน แต่อย่างว่าของมันแพงแล้วไอ้เราก็ไม่เคยซื้อคีย์บอร์ดที่ราคาเกินพันเลยด้วยซ้ำเลยต้องละเอียดหน่อย ยิ่งคีย์บอร์ดแบบนี้มีรุ่นของสี (สีของ Switch) ที่มีความนุ่มและการใช้น้ำหนักกดที่ต่างกันไปอีก ซึ่งใครที่อยากรู้เรื่องของคีย์บอร์ดแบบกลไกก็ลองหาอ่านได้ทั่วๆไปครับ มีเขียนเยอะมากพอสมควร
ในตอนแรกผมดูยี่ห้อ Rosewill เป็น Brown switch ไว้ที่ราคา 2900 ประมาณนี้ เพราะคิดว่าสีอื่นคงใช้น้ำหนักในการกดมากไป หรือเสียงอาจจะดังเกินความจำเป็น แต่เมื่อพอไปได้ลองแล้วก็กลับได้สีฟ้าที่ถูกใจกว่ามาใช้งานแทน และก็ยังต่างยี่ห้อจากที่ดูไว้อีกด้วย ยี่ห้อที่ผมซื้อเป็นยี่ห้อ CMStorm รุ่น Quick Fire pro ที่ได้ LED สีแดงใต้ปุ่มแถบขวาและแป้นภาษาไทยมาแลกกับบวกเงินเพิ่มไป 100 บาท ที่ร้าน EnviSimple
ถ้าไม่ได้ลองสัมผัสเองจะเข้าใจไม่ถึงครับ (ก็อาจจะเข้าใจบ้างแหละ) การที่เราใช้งานอะไรบ่อยๆเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เราก็น่าจะทุ่มให้เรื่องนั้นมีความสำคัญขึ้นมาบ้าง บางทีอาจจะเป็นเรื่องของความชอบก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันฟุ่มเฟือยเกินเหตุถ้าเทียบกับคุณภาพและการใช้งานที่ยาวนาน อย่างว่า เหรียญมีสองด้าน ความรู้สึกของผู้ใช้ขึ้นอยู่กับเราเองมากกว่าอยู่ดี